บทที่ 2 เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

วัตถุประสงค์
๑.สามารถอธิบายความหมายและความสำคัญของการดูแลรักษาเสื้อผ้าได้
๒.สามารถบอกสัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาเสื้อผ้าได้
๓.สามารถบอกประเภทการซ่อมแซมเสื้อผ้าและการสอยด้ายได้
๔.สามารถประยุกต์ใช้การซักเสื้อผ้าและการตากเสื้อผ้าได้
๕.สามารถเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียการซักเสื้อผ้าด้วยมือและเครื่องซักผ้าได้
๖.สามารถประยุกต์ใช้วิธีการเก็บเสื้อผ้าและพับเสื้อผ้าได้

บทที่ ๒ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

    ๑.ความหมายและความสำคัญของการดูแลรักษาเสื้อผ้า
    การดูแลรักษาเสื้อผ้า หมายถึง การทำให้เสื้อผ้าคงสภาพใช้งานได้นานและประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้าใหม่ เช่น การซ่อมแซมเสื้อผ้า และการซักเสื้อผ้า

    ๒.สัญลักษณ์สากลในการดูแลรักษาเสื้อผ้า
    การดูแลรักษาเสื้อผ้าตามสัญลักษณ์สากลที่บอกรายละเอียดข้อควรปฏิบัติหรือการระวังเนื้อผ้าไว้บนป้ายหรือเสื้อผ้าสำเร็จรูปหรือผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆ จะช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ใช้งานได้นานโดยสัญลักษณ์ที่พบเห็น มีดังนี้


รูปที่ ๑

    ๓.การซ่อมแซมเสื้อผ้า
    เสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นประจำ อาจเกิดการชำรุดเนื่องจากทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน หากรู้จักซ่อมแซมจะทำให้เสื้อผ้าใช้งานได้ต่อไป การซ่อมแซมเสื้อผ้ามีหลักการสำคัญ ดังนี้
    ๑.เลือกวิธีซ่อมแซมให้เหมาะสมกับลักษณะการชำรุดของเสื้อผ้าเพื่อความทนทานต่อการใช้งาน
    ๒.ใช้ด้ายสีเดียวกับสีเสื้อผ้าที่จะซ่อมแซม หรือสีใกล้เคียงกัน เพื่อความกลมกลืนสวยงาม
    ๓.ซ่อมแซมก่อนซักรีดเสื้อผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าชำรุดไปมากกว่าเดิม
-การสอยด้าย
    ๑.การสอยซ่อนด้าย เป็นการซ่อมแซมที่มอง้เห็นเส้นด้ายเพีี่ยงเล็กน้อย นิยมใช้ซ่อมแซมชายเสื้อ ชายกางเกง หรือชายกระโปรง
    ๒.การสอยพันริม เป็นการสอยที่มองเห็นเส้นด้ายด้านผิดมากกว่าด้านถูก นิยมใช้สอยชายกางเกง
    ๓.การสอยฟันปลา เป็นการสอยที่มองเห็นเส้นด้ายทางด้านผิดในลักษณะไขว้หัวมุม นิยมใช้สอยผ้ายืด ผ้าหนาริมผ้าไม่ลุ่ยและผ้าที่ไม่ต้องพับริมก่อนสอย
    ๔.การสอยหลบหลังคา เป็นการสอยที่มองเห็นเส้นด้ายที่ริมผ้า ๒ ชิ้นซึ่งเย็บติดกันแน่นในลักษณะพันริมนิยมใช้เย็บที่นอนหรือเบาะ

    ๔.การซักเสื้อผ้าและการตากเสื้อผ้า

รูปที่ ๒

รูปที่ ๓
-การซักเสื้อผ้า
    การซักเสื้อผ้าโดยทั่วไปมี ๒ วิธี ได้แก่ การซักเสื้อผ้าด้วยมือและการซักเสื้อผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ซึ่งการซักเสื้อผ้าแต่ละวิธี มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้

การซักเสื้อผ้าด้วยมือ
ข้อดี
๑.ประหยัดน้ำและไฟฟ้า
๒.ประหยัดค่าใช่จ่ายการซื้อเครื่องซักผ้า
๓.เสื้อผ้าสะอาด
๔.ถนอมเสื้อผ้าให้ใช้ได้นาน
ข้อเสีย
๑.สิ้นเปลืองแรงงาน
๒.สิ้นเปลืองเวลา
๓.เสื้อผ้าแห้งช้า

การซักเสื้อผ้าด้วยเครื่องซักผ้า
ข้อดี
๑.ประหยัดแรงงาน
๒.ประหยัดเวลา
๓.เสื้อผ้าแห้งเร็ว
ข้อเสีย
๑.สิ้นเปลืองน้ำและไฟฟ้า
๒.สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายการซื้อเครื่องซักผ้า

    ๕.การเก็บเสื้อผ้าและการพับเสื้อผ้า
    เป็นขั้นตอนการทำงานต่อเนื่องจากการซักและตากเสื้อผ้า ซึ่งจะช่วยให้ผ้าที่แห้งแล้วไม่ต้องเปื้อนฝุ่นที่เกิดจากลมพัด หรือตากแดดจนสีซีด
-การเก็บเสื้อผ้า
    การเก็บเสื้อผ้า มีขั้นตอนดังนี้
    ๑.เก็บผ้าที่ตากไว้จากราวตากผ้า โดยเสื้อที่มีไม้แขวนให้หิ้วมาทั้งไม้แขวน ส่วนเสื้อผ้าที่พาดไว้ ให้ดึงที่หนีบผ้าออกแล้ววางรวมกัน
    ๒.แยกประเภทเสื้อผ้าที่ต้องรีดและไม่ต้องรีด เสื้อผ้าที่รีดให้แขวนรวมกัน ส่วนเสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด วางรวมกันเพื่อพับก่อนเก็บเข้าตู้
-การพับเสื้อผ้า
    เสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด เช่น ชุดนอน กางเกงชั้นใน เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ถุงเท้า ผ้าเช็ดตัว ควรพับให้เรียบร้อยเพื่อเก็บใส่ตู้เสื้อผ้า


อ้างอิงหนังสือ
สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) สำนักพิมพ์ บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด
ภาพที่ ๑
ภาพที่ ๒
ภาพที่ ๓




ความคิดเห็น